13 ผัก ในจานสลัด ที่จะทำให้คุณห่างไกลโรค

เพราะพรุ่งนี้..คุณไม่สามารถรู้ได้เลย ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสุขภาพร่างกายของคุณ ฉะนั้นสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ทุกคนเลือกได้ เริ่มทานผักตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีที่ยืนยาวนะครับ

1. ผักโขม (Amaranth)

เป็นผักบำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน และช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากโรคดวงตาเสื่อม ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ทั้งยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้

หมายเหตุ : ผู้ที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เกาต์ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ รวมถึงผู้ที่ต้องการสะสมปริมาณแคลเซียมควรจะต้องหลีกเลี่ยงการกินผักขมในปริมาณมาก

2. ปวยเล้ง (Baby Spinach)

ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หลับสบายขึ้น ลดอาการหงุดหงิดง่ายได้ เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก เพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย ทำให้กระดูกของเราแข็งแรง นอกจากนั้นแล้ว ยังเหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย และมีอาการเครียด ทั้งยังช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ และช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย

3. ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce)

บำรุงเม็ดเลือดแดงได้อย่างดี ป้องกันโลหิตจาง มีสรรพคุณช่วยบำรุงระบบประสาท บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงสายตา บำรุงผิวและช่วยลดคลอเรสตอรอลได้

4. ขึ้นฉ่าย (Celery)

ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคปวดข้อ เช่น รูมาติกและโรคเกาต์ น้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายมีสรรพคุณเป็นยากล่อมประสาท ทำให้รู้สึกสบาย และนอนหลับได้ดี

5. ผักชิคโครี (Chicory)

ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน แก้ไอ แก้ไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยรักษาเจ็บคอ ช่วยขับเหงื่อ เป็นยาระบาย ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับพยาธิ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงเส้นผม ช่วยบำรุงประสาท ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยรักษาปากนกกระจอก อนุมูลอิสระ แก้หวัด ช่วยสร้างเม็ดเลือด แก้กระหายน้ำ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง แก้ท้องผูก ช่วยระบบขับถ่าย ช่วยล้างลำไส้ ช่วยขับลม ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับพยาธิ ช่วยขับน้ำนม ช่วยบำรุงตับ แก้ปวด แก้ปวดเอว

6. ผักกาดคอส (Cos Lettuce)

ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงเส้นเลือดให้แข็งแรง บำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย

7. ฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก (Fillie Iceburg Lettuce)

มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด มีวิตามินซีสูงมาก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันหวัดได้ดี และมีโฟเลตที่จำเป็นต่อทารกในครรภ์

8. กรีนคอรัล&เรดคอรัล (Green Leaf Lettuce & Red Leaf Lettuce)

ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยได้ดีกว่าผักกาดหอมสีเขียวธรรมดา และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีกากใยอาหารมากช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดพวกไขมันและอนุมูลอิสระที่เกาะตามผนังลำไส้ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ ทั้งยังช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณอีกด้วย

9. กรีนโอ๊ค&เรดโอ๊ค (Green Oak&Red Oak)

บำรุงเม็ดเลือดขาวได้ดี มีไฟเบอร์สูงช่วยในการระบาย รวมทั้งชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากอาหาร ไม่ให้รวดเร็วจนเกินไป ช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดพวกไขมันและอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในลำไส้ได้

10. ผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce)

ผักชนิดนี้มียางเล็กน้อย และยางมีสรรพคุณเป็นยานอนหลับ แก้ไอ แก้เมาเรือ กล่อมประสาทเล็กๆ น้ำผักกาดแก้วช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น และ ในผักกาดแก้วยังมีธาตุเหล็ก ที่ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงมีครรถ์ ช่วยต้านมะเร็ง และเป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยในการระบายได้อย่างดี

11. แรดิชิโอ (Radicchio)

บรรเทาอาการท้องผูก เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ช่วยล้างพิษในเลือด และช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ

12. ผักกาดหอม (Romaine Lettuce)

• ต้นผักกาดหอมทั้งต้นคั้นเอาแต่น้ำ ใช้ขับพยาธิ แก้พิษ ขับลม เป็นยาระบาย
• ใบผักกาดหอม น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ไอ ทำให้หลับง่าย แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ
• เมล็ดผักกาดหอม ใช้รักษาโรคตับ ขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ระงับปวด แก้ปวดเอว และรักษาโรคริดสีดวงทวาร

13. มะเขือเทศ (Tomato)

มีสารไลโคปีน หรือแคโรทีน ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก มีฤทธิ์ยับยั้งการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยในการบำรุงสายตา ส่งเสริมการทำงานของกระบวนการพลัดเซลล์ผิว ช่วยให้เกร็ดเลือดแข็งแรงลดอาการเลือดออกตามไรฟัน และส่งเสริมบำรุงเส้นเลือดฝอยให้มีความแข็งแรง ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใสเต่งตึงและยังช่วยให้ผิวขาวอมชมพูมาจากข้างในอีกด้วย

ขอขอบคุณที่มา : Clippac